ปักษาสวรรค์ (Bird of Paradise) หรือชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Strelitzia reginae Ait. อยู่ในวงศ์ Strelitziaceae เป็นพืชดอกที่มีสีสันสวยงามอีกชนิดหนึ่ง และเป็นไม้แตกกอที่มีการเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่สูงที่มีอากาศค่อนข้างเย็น ขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อ และใช้เมล็ด มีถิ่นกำเนิดทางแอฟริกาใต้ นิยมปลูกเป็นไม้ประดับอย่างแพร่หลาย เนื่องจากดอกมีรูปทรงแปลกและสะดุดตาต่างจากดอกไม้อื่นทั่วๆ ไป
ลักษณะทางพฤษศาสตร์
ปักษาสวรรค์เป็นพืชที่มีลำต้นอยู่ใต้ดิน (rhizome) หรือที่เรียกว่ามีเหง้าอยู่ใต้ดิน ส่งใบขึ้นมาพ้นผิวดินทำให้เห็นเหมือนลำต้นเป็นกอมีลักษณะรายละเอียดส่วนต่างๆ ดังต่อไปนี้
ราก ลักษณะรากเป็น fleshy root ถ้าปลูกอยู่ในกระถาง รากจะอัดกันแน่น ขดกันกลมก้นกระถาง รากอวบหนา เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.5-1.0 นิ้ว มี storage food สูงมาก ทำให้ทนต่อสภาพอากาศแห้งแล้งได้ดีพอสมควร
ลำต้น ลักษณะลำต้นเป็น pseudostem สูงประมาณ 2-5 ฟุต ถ้ารับประทานเข้าไปจะเป็นพิษ
ใบ ลักษณะใบเป็นใบเดี่ยวแต่ละใบจะชูออกในทิศทางตรงกันข้ามสลับกันไปมา ทำให้มองเห็นรูปทรง ต้นแบนแผ่ออกคล้ายพัดลักษณะใบรูปหอกคล้ายใบกล้วย หรือใบพุทธรักษายาวประมาณ 30-100 เซนติเมตร ก้านใบกลมแข็ง โคนใบกางเป็นกาบหุ้มซ้อนเรียงสลับกันเป็นแผงตอนปลายก้านแผ่เป็นตัวใบ ใบหนาเส้นใบขนานกัน ผิวใบฉาบด้วยขี้ผึ้งบางๆ สีเทา ใบสีเขียวเข้มปนเทา สำหรับใบที่ยังอ่อนอยู่เส้นกลางใบจะมีสีแดง
ดอก ลักษณะดอกเป็นดอกช่อแบบ spike คือ มีหลายดอกในช่อเดียวกันโดยแต่ละดอกจะติดกับก้านช่อดอกไม่มีก้านดอกของต้นเอง
ภายในดอกแต่ละดอกประกอบด้วย sepal 5 petal 5 เกสรตัวผู้ 5 เกสรตัวเมีย 1 ovary มี 3 locale ซ่อนอยู่ใต้กลีบดอกสีส้มทุกกลีบ
ผลและเมล็ด เป็นผลเดี่ยวแบบแคปซูล เมล็ดแข็งสีดำเป็นมัน มีพู่สีส้มประที่เมล็ดเป็นพวก hardy seed เช่นเดียวกับเมล็ดพุทธรักษา
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
ปักษาสวรรค์ชอบขึ้นในสภาพที่แสงแดดรำไร ออกดอกได้ดีที่มีอากาศเย็น ความชื้นสูง ถ้าปลูกในระดับ 1,000-1,300 เมตร จากระดับน้ำทะเลจะให้ดอกที่มีก้านยาวสีเข้มตลอดทั้งปี ถ้าปลูกในระดับ 400-700 เมตร จากระดับน้ำทะเลจะให้ดอกตลอดปีเช่นกัน แต่ผลผลิตต่ำ ในช่วงฤดูร้อน ดอกมีขนาดเล็กสีซีด เมล็ดที่ได้เปอร์เซ็นต์ความงอกต่ำ อุณหภูมที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโต คือ อุณหภูมิประมาณ 25 องศาเซลเซียส
วิธีการขยายพันธุ์
1. การแยกหน่อหรือกอ
เมื่อปักษาสวรรค์อายุ 2 ปีขึ้นไปจะมีต้นในกอมากขึ้นสามารถแยกกอได้ โดยใช้มีดตัดลำต้นใต้ดินให้ได้ลำต้นที่อยู่เหนือดินอย่างน้อย 1 ต้น นำมาแช่น้ำยากันเชื้อราประมาณ 10 นาทีจากนั้นผึ่งให้แห้งก่อนนำไปปลูกในถุงหรือกระถาง แล้วนำมาเลี้ยงในโรงเรือนที่พรางแสง 70 เปอร์เซ็นต์ เมื่อมีการตั้งตัวดีแล้วจึงย้ายลงปลูกในแปลงต่อไป
2. การเพาะเมล็ด
(2.1) ก่อนทำการเพาะควรนำเมล็ดแช่สารละลาย GA (gibberellia acid) ความเข้มข้น 50 ppm. แช่นาน 48 ชั่วโมง และนำมาแช่ในน้ำอุ่นอุณหภูมิ 50-55 องศาเซลเซียส นาน 1 ชั่วโมง เพื่อให้เปลือกของเมล็ดอ่อนตัวลงและดูดซับน้ำได้ง่ายขึ้น ทำให้การงอกของเมล็ดเร็วขึ้น
(2.2) เตรียมวัสดุปลูก โดยใช้ขุยมะพร้าว : ทราย : พีทมอส อัตราส่วน 1:1:1 นำมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วนำมาใส่ตะกร้าประมาณ 1 ใน 3 ของตะกร้า
(2.3) หว่านเมล็ดให้กระจาย แล้วกลบเมล็ดหนาประมาณ 3/4 นิ้ว รดน้ำให้ชุ่ม ควรรักษาความชื้นอยู่ตลอดเวลาแต่อย่าให้แฉะจนเกินไป ปกติเมล็ดจะเริ่มงอก ตั้งแต่ 30 วันขึ้นไป
(2.4) เมื่อเมล็ดเริ่มงอก ยาวประมาณ 0.5 นิ้ว ต้องรีบย้ายลงถุง ถ้าปล่อยให้ต้นกล้ายาวมากจะย้ายยาก เพราะว่าการเจริญของรากจะเร็วกว่าลำต้น ทำให้ส่วนของรากยาวกว่าส่วนที่เป็นลำต้นที่โผล่พ้นผิวดิน
(2.5) อัตราส่วนของวัสดุปลูกในช่วงอนุบาลนนี้มีดังนี้ คือ ขุยมะพร้าว : เปลือกข้าว : ดินใบไม้ผุ : ปุ๋ยหมัก อัตราส่วน 4:3:2:1 หลังจากย้ายต้นกล้าลงถุงแล้ว ควรเลี้ยงต้นกล้าให้มีใบจริง 2-3 คู่ใบก่อนจะนำลงปลูกในแปลง ใช้เวลาประมาณ 6 เดือน ต้นปักษาสวรรค์ที่นำลงปลูกในแปลงควรมีความสมบูรณ์แข็งแรงจึงจะให้ผลผลิตสูง
การเตรียมแปลงปลูก และวิธีการปลูก
การเตรียมแปลง
การเตรียมดินในแปลงปลูกควรกว้าง 1.20 เมตร มีส่วนผสมของดินร่วน ปุ๋ยคอก และแกลบผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วจึงนำต้นปักษาสวรรค์ลงปลูก ปักษาสวรรค์เป็นพืชที่ชอบดินที่มีการระบายน้ำดี
การปลูก
หลังจากการเตรียมดินเสร็จแล้ว นำกล้าที่มีอายุ 6 เดือนขึ้นไปปลูกลงแปลง ระยะปลูก 0.80?0.80 เมตร เมื่อปลูกเสร็จแล้วรดน้ำให้ชุ่ม
การดูแลรักษา
แสง หลังจากปลูกต้นปักษาสวรรค์แล้วควรมีการพรางแสงด้วยซาแลน 50 เปอร์เซ็นต์
ปุ๋ย หลังจากการปลูกแล้ว เมื่อปักษาสวรรค์ตั้งตัวดีแล้วจึงเริ่มให้ปุ๋ยโดยการให้ปุ๋ยน้ำ อาทิตย์ละ 2 ครั้ง
สูตรปุ๋ยน้ำ ต่อน้ำ 20 ลิตร
A B
กรดไนตริก 20 ซีซี 40 ซีซ๊
12-60-0 1,080 กรัม -
15-0-0 - 1,420 กรัม
13-0-46 800 กรัม 800 กรัม
แมกนีเซียมซัลเฟต 520 กรัม -
ยูนิเลท 50 กรัม -
การให้น้ำ
ควรให้น้ำอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม อย่าให้น้ำขังและแฉะจนเกินไป หากมีน้ำขังจะทำให้ระบบรากเน่าเสียหาย ดังนั้นควรเลือกปลูกในที่ที่ไม่แฉะและน้ำท่วมขัง
โรคและศัตรูพืช
พบว่ามีโรคแมลงรบกวนน้อยมาก โรคที่พบ คือ โรคโคนเน่า ส่วนแมลงที่พบจะมีหนอนกัดกินยอดและฝัก รวมทั้งมดมาดูดกินน้ำหวานบริเวณดอกแต่ไม่สร้างความเสียหายแก่ดอก เนื่องจากลักษณะของต้นปักษาสวรรค์มีใบที่เป็นมัน มีขนาดใหญ่และหนา มีความแข็งแรงมาก จึงมีความทนทานต่อการเข้าทำลายของโรคและแมลง
[ขอบคุณข้อมูลจาก สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)]