บานเย็น เป็นไม้ดอกมาจากถิ่นกำเนิดในบริเวณเทือกเขาแอนดิส ประเทศเปรู เป็นไม้แปลกอีกอย่างหนึ่ง คือสามารถมีดอกหลายสีอยู่บนต้นเดียวกันพร้อมๆ กันได้ นอกจากนี้ในแต่ละดอกอาจมีหลายสีปนกันอยู่ได้เช่นกัน และสีของดอกจะเปลี่ยนไปเมื่อต้นบานเย็นมีอายุมากขึ้น เช่น บานเย็นพันธุ์ดอกเหลือง สีของดอกอาจค่อยๆ เปลี่ยนเป็นชมพูเข้ม หรือ พันธุ์ดอกขาวอาจจะเปลี่ยนเป็นม่วงอ่อนได้
ดอกบานเย็นจะบานในช่วงเวลาบ่ายแก่ๆ เป็นต้นไป จึงเป็นที่มาของชื่อไทยว่า "บานเย็น" หรือที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า "ดอกสี่โมง" (four o'clock flower) (เวลาประมาณ 16.00 น. เป็นต้นไป หรือช่วงที่แสงแดดเริ่มลดน้อยลง) เมื่อดอกบานจะมีกลิ่นหอมจัดแบบกลิ่นหอมหวานๆ ในประเทศจีน เรียกว่า "ดอกสายฝน" (shower flower) หรือ "ดอกหุงข้าว" (rice boiling flower) เพราะดอกบานเย็นจะบานในช่วงเวลานั้น ส่วนในฮ่องกง เรียกว่า "มะลิม่วง" (purple jasmine)
ส่วนของกลีบดอกที่เห็นเป็นสีต่างๆ นั้น แท้จริงแล้วไม่ใช่กลีบดอกแท้ แต่เป็นส่วนกลีบเลี้ยง (calyx) ที่เปลี่ยนรูปไปจากปกติและมีเม็ดสี (pigments) การผสมเกสรเกิดโดยแมลงกลางคืนชนิดที่มีลิ้นยาวซึ่งถูกดึงดูดมาหาดอกบานเย็นโดยกลิ่นหอมที่ปล่อยออกมานั่นเอง
สีของดอกบานเย็น
ดอกบานเย็นแต่เดิมมีเพียงไม่กี่สี เช่น สีแดง ชมพู ขาว เหลือง แต่ปัจจุบันอาจกล่าวได้ว่านับไม่ถ้วนแล้ว มีทั้งแบบผสม 2 สี เช่น สีขาว-ชมพู สีเหลือง-บานเย็น สีเหลือง-ส้ม สีโอโรส-บานเย็น หรือมากกว่า 2 สีในดอกเดียวกัน และยังมีลูกเล่นของสีเกิดขึ้นมากมาย เช่น ผสมสลับครึ่งกลีบ ครึ่งดอก แต้มจุด แต้มแถบ ด่างจุด ด่างแถบ ฯลฯ
ต้นบานเย็นโตได้ดีที่สุดในแสงแดดจัด ความสูงต้นเมื่อโตเต็มที่ประมาณ 90 ซม. ผลมีเมล็ดเดี่ยว เมล็ดมีลักษณะกลม ผิวเปลือกเมล็ดเปลี่ยนสีจากเหลืองปนเขียวเป็นสีดำ และย่นเมื่อเมล็ดแก่จัด
การปลูกต้นบานเย็น
ปลูกได้ง่ายโดยเตรียมเมล็ดพันธุ์ที่แก่จัด อาจเก็บมาจากต้นพันธุ์ หรือซื้อมาจากร้านขายเมล็ดพันธุ์ (เช่น ร้านพีทูเอส) ใช้ตะเกียบเจาะช่องบนดินบริเวณที่จะปลูก แล้วหยอดเมล็ดลงไป ก่อนปิดหน้าดินให้มิด (สามารถกดลงในดินปลูก ได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องแช่น้ำก่อนแต่อย่างใด) หลังจากนั้นให้รดน้ำ ก็จะงอก เจริญเติบโตได้แล้วในเวลาไม่นานนัก อย่างไรก็ดี บานเย็นมีการกระจายเมล็ดเกิดได้เอง และอาจแพร่กระจายได้เร็วมากจนกลายเป็นวัชพืชถ้าขาดการควบคุมดูแลที่ดี
การใช้ประโยชน์
1. ใบ ใช้ลดอาการอักเสบ น้ำคั้นใบตำละเอียดและต้มแล้วใช้รักษาฝีหนอง ใบกินสุกได้แต่ควรกินเมื่อจำเป็นเท่านั้น
2. ดอก ใช้ทำสีผสมอาหารสีแดงเข้ม ซึ่งมักใช้แต่งสีเค้ก และเจลลี่
3. เมล็ด บางพันธุ์เมื่อบดละเอียดเป็นผงใช้ผสมในเครื่องสำอางและสีย้อม แต่เมล็ดบานเย็นส่วนใหญ่ถือว่ามีพิษ
4. ส่วนต่างๆของต้น ใช้ในยาขับปัสสาวะ ยาระบาย และรักษาแผล ส่วนรากเชื่อว่ามีสรรพคุณเพิ่มสมรรถนะทางเพศ และออกฤทธิ์ขับปัสสาวะและระบายท้อง รวมถึงมีการใช้เพื่อรักษาอาการบวมน้ำ
ขอบคุณข้อมูล
1. วิกิเดีย
2. http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/2008/09/J6975143/J6975143.html