การปักชำกิ่งลีลาวดี
1. การเลือกกิ่ง
กิ่งที่เลือกไม่ควรเป็นกิ่งอ่อน สังเกตจากสีผิวของเปลือกเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีน้ำตาลนวลๆแล้ว หรืออาจเลือกใช้วิธีง่ายๆคือ ถ้าเป็นกิ่งที่มาจากต้นสภาพธรรมชาติ วัดความยาวจากปลายกิ่งที่แตกใบอ่อนมาประมาณ 50 - 75 ซ.ม. หากเป็นกิ่งที่ผ่านการเลี้ยงดูมาอย่างดีควรยาวประมาณ 100 ซ.ม.
2. การเตรียมกิ่ง มีหลักการง่ายๆ ดังนี้
- แนะนำให้เริ่มตัดกิ่งในช่วงเช้าหรือสายของวัน
- เครื่องมือที่ใช้ตัด (เช่น มีด หรือคัทเตอร์ขนาดใหญ่) ควรมีความคมมากๆ เพื่อมิให้รอยแผลที่ตัดช้ำ ควรเริ่มตัดกิ่งลีลาวดีในช่วงเช้า
- หลังตัดกิ่ง ควรนำไปวางในบริเวณที่จะไม่ทำให้เกิดรอยช้ำบริเวณรอยแผลที่ตัด
- ตัดใบออกจากกิ่งบ้าง ให้เหลือแต่ใบที่บริเวณยอด 1 - 2 ใบ
- วางกิ่งผึ่งลมในที่ร่มไว้ประมาณ 4 - 6 ชั่วโมงเพื่อให้ยางที่กิ่งแห้ง
3. การเลือกภาชนะปลูก
ควรเลือกใช้ภาชนะปลูกที่หาได้ง่าย หรืออาจเลือกใช้เป็นกระถางก็ได้ (ถ้าได้เป็นกระถางดินเผาหรือโอ่งขนาดเล็กก็จะไม่มีปัญหากิ่งล้มง่ายเมื่อถูกแรงลม) ที่สำคัญคือ เมื่อใส่ดินปลูกแล้ว นำกิ่งปักลงไปไม่ล้ม และแน่นก็พอแล้ว หากกิ่งพันธุ์ที่ใช้ใหญ่มาก ไม่สมดุลกับกระถาง ให้ใช้ไม้ปักเป็นหลักและผูกให้แน่น
4. วัสดุ หรือดินที่ใช้ในการปลูก
เลือกใช้ได้หลายๆอย่าง เช่น ดินสำเร็จที่ขายเป็นถุง ขี้เถ้าแกลบเก่าข้ามปี ทรายผสมขึ้เถ้าแกลบ หน้าดินใต้ต้นไม้ใหญ่ หรือใต้กอไผ่ ฯลฯ หรือหากหาไม่ได้จริงๆ ก็สามารถใช้ดินที่ปลูกต้นไม้อะไรก็ได้ที่ต้นไม้นั้นเติบโตได้ ก็นำมาปลูกลีลาวดีได้เช่นเดียวกัน
5. เทคนิคเพิ่มเติมสำหรับการขยายพันธ์ด้วยการปักกิ่ง
- กิ่งที่นำไปปัก ไม่ควรปักลึกมากเกินไปหรือลึกจนถึงก้นกระถาง ควรให้ส่วนปลายสุดของกิ่งที่ปักห่างจากก้นกระถางประมาณ 3 - 5 ซม. หรือปักลึกในดินปลูกเพียงสามในสี่ส่วนของความสูงกระถาง
- ควรใช้ไม้หรือวัสดุที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเล็กกว่ากิ่งที่จะปักเล็กน้อยเสียบนำร่องลงไปก่อนและดึงออก (เพื่อป้องกันมิให้ปลายกิ่งช้ำ) จากนั้นค่อยๆเสียบกิ่งตามลงไป บดอัดดินที่อยู่รอบๆกิ่งให้แน่น เพื่อป้องกันกิ่งโยกไปมา บางครั้งอาจต้องใช้ไม้หลักปักและมัดกิ่งเข้ากับหลักปัก (อย่าลืมหมั่นสังเกตด้วยว่าเชือกที่มัดเริ่มตึงมากขึ้นเมื่อกิ่งเริ่มขยายใหญ่ขึ้น อาจต้องคลายเชือกหรือถอดออก)
- รดน้ำให้ดินชุ่มชื้น ไม่มีน้ำท่วมขัง และนำไปตั้งวางในบริเวณร่มรำไร ไม่ถูกแสงแดดจัด รวมทั้งไม่ควรเคลื่อนย้ายกระถางโดยไม่จำเป็น (อาจทำให้กิ่งโยกได้)
- สังเกตดูว่ามีการแตกใบใหม่หรือยัง ถ้าเริ่มมีใบอ่อน 2 - 3 ใบ แสดงว่ารากเริ่มเดินและกิ่งนั้นพร้อมเติบโตและออกดอกให้ได้ชื่นชมอีกไม่นานแล้ว