1. พันธุ์ Abbott -ผลทรงกลมรี มีขนยาวปกคลุมอยู่ทั่วผล
2. พันธุ์ Allison-ผลคล้ายกับพันธุ์ Abbott แต่ขนาดผลจะใหญ่กว่า
3. พันธุ์ Bruno-ผลทรงรียาว เปลือกมีสีน้ำตาลเข้ม ขนที่ปกคลุมผลสั้น อ่อน เปราะ แต่มีขนาดผลใหญ่กว่าพันธุ์อื่นๆ
4. พันธุ์ Hayward- ผลเป็นรูปทรงไข่ เปลือกผลเป็นสีน้ำตาลอมเขียว มีขนอ่อนปกคลุมอยู่ทั่วผล
5. พันธุ์ Monty-ขนาดผลใกล้เคียงกับพันธุ์ Abbott และ Allison ขั้วผลสอบ ท้ายผลโค้ง มีขนอ่อนปกคลุมอยู่ทั่วผล
การขยายพันธุ์
สามารถทำได้โดยวิธีการเพาะเมล็ด การปักชำ และการเสียบยอด
กีวีเป็นพืชที่สามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วน หรือดินร่วนปนทรายที่มีหน้าดินลึก 60 ซม. เป็นอย่างน้อย สามารถระบายน้ำและอากาศได้ดี ไม่มีน้ำท่วมขัง สภาพดินมีความเป็นกรดเป็นด่างประมาณ 5.5-7.0 ชอบอากาศที่หนาวเย็น อุณหภูมิเฉลี่ยต้องไม่สูงไปกว่า 25 องศาเซลเซียส
ระยะปลูกที่เหมาะสมในการปลูกต้นกีวีต้องมีระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 4×4 หรือ 6×6 เมตร โดยที่ในแถวเดียวกันและแถวอื่นๆ ต้องปลูกต้นตัวผู้และต้นตัวเมียสลับกันไปในอัตราส่วน 1:8 ต้น เพื่อให้การผสมเกสรเป็นไปอย่างทั่วถึง
หลุมที่ใช้ปลูกกีวี ควรรองก้นหลุมด้วยหินฟอสเฟตประมาณ 200 กรัม/หลุม ปุ๋ยคอก 1-2 ปุ้งกี๋/หลุม และเศษหญ้าแห้งพอสมควร นำต้นกล้าที่เตรียมไว้ออกจากถุงเพาะ วางลงในหลุมด้วยความระมัดระวัง กลบดินพอแน่นในลักษณะที่นูนขึ้นเพื่อกันน้ำท่วมขัง รดน้ำพอชุ่ม มัดเถาต้นกับค้างในลักษณะตั้งตรง เมื่อยอดเจริญสูงกว่าค้างให้ตัดเท่ากับระดับค้างเสมอ เพื่อให้มีการแตกกิ่งใหม่ขึ้นมา พาดกิ่งที่แข็งแรงที่สุดบนค้างประมาณ 2 กิ่ง เมื่อมีกิ่งเจริญขึ้นมาอีกก็ให้ตัดแต่งเพื่อให้มีการแผ่ขยายอย่างเป็นระเบียบ