มะไฟ (Burmese Grape)
ชื่ออื่นๆ : หัมกัง (เพชรบูรณ์) ส้มไฟ (ภาคใต้)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Baccaurea ramiflora
วงศ์ : Phyllanthaceae
มะไฟ เป็นพืชพื้นเมืองของอินโดนีเซีย ต่อมาจึงแพร่หลายไปทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ใบเดี่ยว รูปไข่ ดอกเป็นช่อสีชมพูอ่อนหรืออมเหลือง มีกลิ่นหอมอ่อน ผลออกเป็นช่อ ผลอ่อนมีขนคล้ายกำมะหยี่ พอแก่ผิวเกลี้ยง เปลือกสีเหลือง เนื้อสีขาวขุ่นหรือขาวใสอมชมพู แล้วแต่พันธุ์ เมล็ดแบนสีน้ำตาล พันธุ์ที่นิยมปลูก ได้แก่
- พันธุ์ไข่เด่า ผลกลมรี ก้นแหลม เนื้อสีอมชมพู หวานอมเปรี้ยว มี 3 - 4 พู
- พันธุ์เหรียญทอง ผลใหญ่ ก้นเรียบ สีขาวขุ่น มี 2 - 3 พู ฉ่ำน้ำ หวานน้อยกว่าพันธุ์ไข่เต่า
ในสิบสองปันนา ประเทศจีน มีมะไฟสีม่วง โดยเปลือกเป็นสีม่วง แปลกตาดี
ประโยชน์
มะไฟกินสุกเป็นผลไม้สด ทำน้ำผลไม้ ผลอ่อนนำไปแกง ผลมะไฟช่วยให้ชุ่มคอ ขับและละลายเสมหะ เปลือกต้มแก้โรคผิวหนัง ชาวกะเหรี่ยงนำยอดอ่อนไปใส่แกงปลา มีรสเปรี้ยว
มะไฟจีน หรือส้มมะไฟ (Wampee)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Clausena lansium
วงศ์ : Rutaceae
มะไฟจีน เป็นพืชตระกูลสัมชนิดหนึ่ง ลักษณะคล้ายมะไฟ ในภาษาจีนเรียกว่า หวงผี (黄皮, พินอิน : huángpí) แปลว่า (ผลไม้) ผิวสีเหลือง เป็นไม้พื้นเมืองและปลูกทั่วไปทางตอนใต้ของจีนและเวียดนาม มีผู้นำมาปลูกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายประเทศ รวมทั้งในอินเดีย ศรีลังกา ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา
มะไฟจีนเป็นไม้ไม่ผลัดใบ ต้นสูงประมาณ 3 - 8 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยวสีเขียวเข้ม ผลมีลักษณะคล้ายกับมะไฟ คือเป็นพวง แต่เปลือกจะบางกว่าและมีรสเฝื่อนเล็กน้อยเนื่องจากมีต่อมน้ำมัน เนื้อในรสหวานอมเปรี้ยว รับประทานสดหรือนำไปแปรรูปได้ ภายในมีเมล็ดตั้งแต่ไม่มีไปจนถึง 5 เมล็ด เมล็ดมีรูปทรงแบนรีสีเขียว ปลายแหลมสีน้ำตาล มะไฟจีนขึ้นได้ดีในดินเกือบทุกชนิด แต่ดินที่เหมาะสมคือดินที่มีการระบายน้ำพอสมควร นอกจากนี้ ยังต้องให้น้ำด้วยถ้าหากอากาศแล้งมาก มะไฟจีนเป็นพืชที่ต้องการแสงแดดตลอดทั้งปี และอากาศไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป นิยมปลูกกันมากทางภาคใต้ของจีน ภาคเหนือของเวียดนาม และในประเทศไทยที่จังหวัดน่าน
ประโยชน์
รับประทานผลสุก เนื้อใช้ทำแยมหรือพาย ผลดิบเปรี้ยวใช้ทำเยลลี่ ไวน์ ผลดิบตากแห้งและรากเป็นยารักษาหลอดลมอักเสบ ใบต้มเคี่ยวกับน้ำใช้สระผม แก้รังแคและรักษาสีผม
ชาวจีนกล่าวว่า ผลตากแห้งหรือเชื่อมแห้งสามารถใช้รับประทานแก้หวัด แก้ไอ หรือแก้พิษร้อน ใบสามารถนำไปทำยาขจัดรังแค และรักษาสีผมให้ดำสนิทได้
หน้าที่เข้าชม | 3,287,290 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 2,326,608 ครั้ง |
เปิดร้าน | 12 พ.ย. 2560 |
ร้านค้าอัพเดท | 21 ต.ค. 2568 |